ระบบการศึกษาไทย

ระบบการศึกษาของไทยมีโรงเรียนแบบไหนบ้าง

เพราะการศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ของเด็ก ซึ่งการจะเลือกโรงเรียนนอกจากเรื่องของค่าใช้จ่ายแล้ว ยังต้องดูถึงหลักสูตร และรูปแบบการเรียนการสอนด้วย เรามาดูกันว่าในระบบการศึกษาของไทยนั้นมีโรงเรียนแบบไหนกันบ้าง

โรงเรียนไทยทั่วไป

โรงเรียนไทยปกติที่เราคุ้นเคย มักแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ โรงเรียนรัฐกับโรงเรียนเอกชน โดยโรงเรียนรัฐจะมีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือหน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คอยบริหารจัดการ ส่วนโรงเรียนเอกชนจมีกลุ่มบุคคล มูลนิธิต่างๆ ที่มีใบอนุญาตจัดตั้งคอยบริหารจัดการ โดยบางแห่งจะแบ่งนักเรียนเป็นโรงเรียนหญิงล้วน ชายล้วน หรือโรงเรียนสห(มีนักเรียนทั้งชายและหญิง)

ซึ่งจะแบ่งการศึกษาเป็น 4 ช่วงชั้น ได้แก่

1. ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3
2. ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6
3. ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3
4. ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6
(บางที่มีตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล)

นอกจากการศึกษาในสายสามัญแล้ว ยังมีการศึกษาในสายอาชีพด้วย ซึ่งโดยทั่วไปสายอาชีพมักจะเตรียมพร้อมไปสู่การทำงานจริง ส่วนนักเรียนที่เลือกสายสามัญก็ตั้งใจที่จะเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย

โรงเรียนนานาชาติ

เป็นโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรจากต่างประเทศ และมีการเรียนการสอนด้วยภาษาต่างประเทศ มีนักเรียนจากหลากหลายประเทศ และหลากหลายเชื้อชาติ โดยหลักสูตรอยู่ภายการดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งโรงเรียนนานาขาติในไทยก็มีความแตกต่างกันตามระบบของแต่ละประเทศได้แก่

ระบบการศึกษาไทย

1. โรงเรียนนานาชาติระบบอเมริกัน
โรงเรียนนานาชาติระบบอเมริกันแต่ละโรงอาจจัดหลักสูตรที่หลากหลาย โดยจะเริ่มเข้าชั้นเรียนประมาณอายุ 5-6 ปี ในระยะแรกจะเน้นการเรียนรู้ด้วยการเล่น เช่น เล่นทราย ศิลปะ ปั้นแป้งโดว์ ประดิษฐ์สิ่งของ จากนั้นจึงเรียนเริ่มเรียนแบบวิชาการในระดับชั้นที่สูงขึ้นไป

2. โรงเรียนนานาชาติระบบอังกฤษ
ในโรงเรียนหลายแห่งยังมีการแต่งเครื่องแบบนักเรียนอยู่ เพราะเชื่อว่าเครื่องแบบทำให้นักเรียนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หลักสูตรเน้นการเรียนวิชาการตั้งแต่ระดับอนุบาล แต่ก็ใช้การเรียนรู้ผ่านการเล่นด้วย และมีการเน้นทักษะการเข้าสังคม การเรียนรู้เรื่องมารยาทมากกว่าหลักสูตรแบบอื่นๆ และเน้นปลูกฝังนิสัยการรักการอ่านให้เด็กตั้งแต่ยังเล็ก

3. โรงเรียนนานาชาติหลักสูตร International Baccalaureate (IB)
เป็นการนำระบบการศึกษาหลากหลายหลักสูตรจากทั่วโลกมาผสม จนกลายเป็นหลักสูตรการศึกษาที่ได้จัดตั้งโดย International Baccalaureate Organization (IBO) ซึ่งเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับในการรับเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง

4. โรงเรียนนานาชาติระบบเยอรมัน
โรงเรียนจะมีภาษาให้เลือกเรียนระหว่างภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมัน หรือภาษาฝรั่งเศสด้วย มีการให้นักเรียนที่อายุต่างกันเข้าเรียนในชั้นเดียวกัน เพื่อให้นักเรียนฝึกปรับตัวเข้าหากัน

5. โรงเรียนนานาชาติหลักสูตรสิงคโปร์
ส่วนใหญ่จะมีการเรียนทั้ง 3 ภาษาใน ภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษไทย และภาษาจีน โดยหลักสูตรจะเน้นวิชาการมากกว่าโรงเรียนนานาชาติแบบตะวันตก มีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนในเด็กอายุ 2 ขวบครึ่งจนถึง 6 ขวบ

โรงเรียนทางเลือก

โรงเรียนที่เรียกได้ว่ามีการเรียนการสอนที่ปรับให้เหมาะกับผู้เรียน รวมไปถึงหลักสูตรและการวัดผล ซึ่งมีความแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไปที่การเน้นการพัฒนาทางทักษะของเด็ก และยึดเด็กเป็นศูนย์กลางทางการเรียนรู้ มีการพาเด็กไปเรียนรู้นอกห้องเรียน เช่น ออกไปสัมผัสธรรมชาติ ด้วยการปลูกข้าว ดำนา เลี้ยงสัตว์ เล่นกันเป็นกลุ่มนอกห้องเรียน เป็นต้น

Home School

โฮมสคูลเป็นการศึกษาทางเลือก เพราะเป็นการสร้างการเรียนรู้จากที่บ้านผ่านพ่อแม่ผู้ปกครอง สำหรับการจัดการเรียนการสอนแบบโฮมสคูล มีข้อดีเพราะทำให้เด็กได้ทำตามแนวคิดของตนเอง สร้างความมั่นใจ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนจะต้องถูกวางแผนขึ้นอย่างดีสำหรับเด็ก ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบ้าน และมีมีพ่อแม่ผู้ปกครองคอยสอนไปตามสถานการณ์ต่างๆ และเด็กๆ ที่เรียนโฮมสคูลจะมีกลุ่มสังคมแบบเดียวกันกับเด็กปกติ เพราะมีการพาลูกๆ มาเรียนร่วมกันในบางวิชา บางกิจกรรม และทำให้เด็กได้ฝึกทักษะการเข้าสังคมไปด้วย

สิทธิของเด็ก Home School

หากมีการจดทะเบียนการจัดการศึกษาอย่างถูกต้อง เด็กจะมีศักดิ์และสิทธิ์เทียบเท่ากับนักเรียนที่เรียนปกติในโรงเรียนทั่วไป สามารถไปเรียนรด. แข่งกีฬาในนามหน่วยงาน สอบรับทุนได้ หรือสอบวัดผลเข้ามหาวิทยาลัยได้ สามารถสมัครเรียนต่อ หรือสมัครงานโดยอ้างอิงวุฒิการศึกษาตามกฎหมาย และรับเงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ด้วย

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ elif-ceyiz.com

Releated